Chlorophyll-C-O คลอโรฟิลล์ ซี-โอ

คลอโรฟิลล์

หลายคนคงคุ้นเคยว่า “คลอโรฟิลล์”  เป็นสารสีเขียวที่พบในพืช มีหน้าทีสังเคราะห์แสง และสะสมเป็นอาหารของพืช แต่ปัจุบันคลอโรฟิลล์ถูกนำมาใช้อาหารเสริม เพราะคลอโรฟิลล์มีสารพัดคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งช่วยให้สดชื่น, กำจัดสารพิษในร่างกาย, ลดโอกาสในการเกิดมะเร็งและเสริมภูมิต้านทาน
 

คลอโรฟิลล์ช่วยดีท็อกซ์และลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง

จากการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่าคลอโรฟิลล์สามารถยับยั้งเซลล์ก่อมะเร็งและการเกิดเนื้องอกได้ โดยการศึกษาพบว่าคลอโรฟิลล์สามารถลดความเสี่ยงจากเนื้องอกในตับได้มากถึง 29 – 64% และลดความเสี่ยงในเนื้องอกกระเพาะได้ 24 – 45% นอกจากนี้ยังพบว่าคลอโรฟิลล์ยังสามารถชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกได้อีกด้วย

คลอโรฟิลล์มีโครงสร้างคล้ายเม็ดเลือดแดงของมนุษย์ นั่นคือมีแร่ธาตุแม็กนีเซียมสำหรับทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน คลอโรฟิลล์จึงมีสมบัติบำรุงเลือด เพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี, รู้สึกสดชื่น, ไม่เหนื่อยล้า, กำจัดของเสียในร่างกาย โดยเฉพาะมลพิษและสารเคมีที่อยู่รอบตัวเรา คลอโรฟิลล์จึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่หรือผู้อยู่ใกล้สารเคมีเป็นประจำ

คลอโรฟิลล์เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย

เพราะคลอโรฟิลล์ช่วยกระตุ้นการสร้างไขกระดูก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเม็ดเลือดขาว ทำหน้าที่ป้องกันและกำจัดการรุกรานของแบคทีเรีย,เชื้อก่อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่รุกล้ำเข้ามาในร่างกาย ระดับเม็ดเลือดขาวที่พอดี จะทำให้เราสดชื่น ไม่ป่วยบ่อยเนื่องจากเรามีความสามารถในการกำจัดเชื้อที่ดี และในทางกลับกันระดับเม็ดเลือดขาวที่น้อย ทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือไวรัสมากขึ้น

 

คลอโรฟิลล์เป็นสารระงับกลิ่นตามธรรมชาติ

คลอโรฟิลล์ช่วยลดกลิ่นลมปากและลมหายใจได้ โดยเมื่อปี 1960 มีการรายงายว่าคลอโรฟิลล์สามารถลดกลิ่นตัวในผู้ป่วยที่ทำการรักษาแบบโคลอสโตมีย์ (Colostomy) หรือผู้ป่วยที่ผ่าตัดทำทวารเทียม นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่าคลอโรฟิล์ช่วยลดกลิ่นตัวจากผู้สูงอายุในในสถานพักพิงผู้สูงอายุด้วย

 

กิฟฟารีน คลอโรฟิลล์ซี-โอ ยังมีโอลิโกฟรุคโตส (Oligofructose) และสารสกัดแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นไฟเบอร์ตามธรรมชาติ เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ดีในกระเพาะอาหารหรือที่เรียกว่า Prebiotic ช่วยระบบย่อยอาหาร ทำให้ดูดซึมอาหารได้ดี, เพิ่มการเผาผลาญพลังงานและกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังเสริมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน ซี, โพลีฟีนอล รวมถึงสารสกัดแอปเปิ้ล ซึ่งเมื่อเรารับสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย มันจะเข้ากำจัดอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพน้อยลงจึงทำให้เซลล์ร่างกายแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ผิวสวยเรียบเนียน เต่งตึง และลดสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง, โรคหัวใจและโรคอัลไซเมอร์  

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คลอโรฟิลล์ ผสมวิตามินซี โอลิโกฟรุคโตส และสารสกัดจากแอปเปิ้ลเขียว ชนิดผง ช่วยขับสารพิษ ต้านอนุมูลอิสระ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลดอาการท้องผูก ช่วยเผาผลาญไขมันดีขึ้น

คุณประโยชน์ของน้ำคลอโรฟิลล์ 

• ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
• เสริมภูมิต้านทานให้ลำไส้ ช่วยระบบขับถ่าย
• มีงานวิจัยว่าสามารถต้านพิษและยับยั่งการทำงานของสารพิษได้ 

น้ำคลอโรฟิลล์เหมาะกับใครบ้าง

• บุคคลทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพ
• ผู้ที่ต้องการความสดชื่น ขจัดความอ่อนล้าระหว่างวัน
• ผู้ที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระหรือผู้ที่ทำงานสัมผัสสารพิษเป็นประจำ

ข้อห้ามและข้อควรระวังในการดิ่มน้ำคลอโรฟิลล์

• ไม่มีข้อห้ามในทุกโรค เว้นเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
• ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ลิตร เพราะคนปกติไม่ควรดื่มน้ำเกินวันละ 2 ลิตร
• โรคไตบางชนิดที่จำกัดการดื่มน้ำไม่ควรดื่ม
• ชงแล้วควรแช่ตู้เย็นและควรดื่มให้หมดภายใน 2 วัน

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 ซอง (1 กรัม) :

• โซเดียมคอปเปอร์คลอโรฟิลลิน 100 มก.
• วิตามิน ซี 60 มก.
• โอลิโกฟรุคโตล 50 มก.
• สารสกัดจากแอปเปิ้ล 10 มก.
  
  

วิธัรับประทาน : รับประทานวันละ 1 ซอง (1 กรัม) โดยผสมกับนํ้า 1.5 ลิตร

คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษาโรค ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

เลขที่จดแจ้ง 13-1-03440-1-0077 ตรวจสอบหมายเลข อย คลิกที่นี่

ปริมาณบรรจุ 30 ซอง   ราคา 480 บาท   (สมาชิกซื้อได้ในราคา 360 บาท)

สมัครสมาชิกเพื่อรับส่วนลดและสิทธิพิเศษ คลิกที่นี่

ADD LINE เพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษก่อนใคร คลิกที่นี่ 

สามารถนำรหัสสมาชิก 81018832 ไปซื้อสินค้าราคาพิเศษได้เองที่ศูนย์กิฟฟารีนทุกสาขาทั่วประเทศ

อ่านบทความ ถาม-ตอบ ปัญหาสุขภาพ พร้อมแนะนำอาหารเสริม โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน คลิกที่นี่ 

อ้างอิง

-CHLOROPHYLL AND BLOOD REGENERATION. (1936). Journal Of The American Medical Association, 106(11), 925.
-McQuistan, T. J., Simonich, M. T., Pratt, M. M., Pereira, C. B., Hendricks, J. D., Dashwood, R. H., Williams, D. E., & Bailey, G. S. (2012). Cancer chemoprevention by dietary chlorophylls: a 12,000-animal dose-dose matrix biomarker and tumor study. Food and chemical toxicology : an international journal published for the British Industrial Biological Research Association, 50(2), 341–352.  
-Roca, M., Chen, K., & Pérez-Gálvez, A. (2016). Chlorophylls. Handbook On Natural Pigments In Food And Beverages, 125-158.
-Siegel, L. (1960). The Control of Colsostomy and Colostomy Odors. Gastroenterology, 38(4), 634-636.
-V.K. Mishra, R.K. Bacheti and Azamal Husen, 2011. Medicinal Uses of Chlorophyll: a critical overview. In: Chlorophyll: Structure, Function and Medicinal Uses, Hua Le and and Elisa Salcedo, Eds., Nova Science Publishers, Inc., Hauppauge, NY 11788 (ISBN 978-1-62100-015-0), pp.177-196. (https://www.novapublishers.com/catalog/product_info.php?products_id=22468)