ตอบ : ต้องไปตรวจเพิ่ม มีประวัติดื่มเหล้าเบียรไหม และมีใครในครอบครัวเป็นไวรัสตับอักเสบไหม และเราควรได้รับการเจาะเลือดดูภูมิคุ้มกันจากไวรัส ว่าเป็นไวรัสตับอักเสบชนิดไหน กำลังเป็น พึ่งเริ่มเป็น หรือเป็นเรื้อรัง ไวรัส มีเอ บี ซี เป็นต้น
บางราย หมอตรวจร่างกายแล้วอาการไม่แน่ใจ อาจจะต้องทำอุลตร้าซาวด์ครับ
ควรไปตรวจเรื่องนี้ก่อนครับ
อาหารเสริมบำรุงตับ ในโรคตับทั่วๆไป ตับอักเสบ คนที่ดื่มเหล้า
ชุดบำรุงตับ แนะนำ ซุปราวิท โคลีนบี เลซิติน งาดำ แอสต้าแซนธิน น้ำทับทิม อารติโชค ครับ และถ้าไวรัสตับอักเสบบี แนะนำ ถั่งเช่า
ห้ามสมุนไพรทุกชนิดนะครับ เว้น อารติโชค และ ถั่งเช่า ( ในไวรัส ตับอักเสบบี ) ครับ
ถ้าตับแข็ง หรือเป็นมาก ได้แก่ มีตาเหลือง หรือมี ท้องโต มีน้ำในท้อง จะงดสมุนไพรหมดครับ แนะนำ ซุปราวิท โคลีนบี งาดำ เลซิติน แอสต้าแซนธิน น้ำทับทิม ครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : โรคนี้ มักจะพบได้ด้วยการอุลตร้าซาวด์ และเป็นโรคที่ต้องค้นหาสาเหตุ และได้รับการรักษา จะต้องได้รับ การเจาะเลือดดูการทำงานของตับ และไวรัสตับอักเสบชนิดต่างๆ ถ้าเป็นจากการดื่มสุรา ต้องงดการดื่มสุรา ถ้าเป็นไขมันในเลือดสูง หรือเบาหวานต้องได้ยาลดไขมันในเลือด และคุมน้ำตาลให้ดี นอกจากนั้นต้องดูว่ามียาบางชนิดทำให่เป็นเช่นนี้ได้ ถ้ามีสาเหตุ และไม่ได้รับการรักษา โรคจะลุกลาม ทำให้ตับแข็งตับวาย หรือถึงแก่ชีวิตได้ในภายหลัง ถ้าไม่มีสาเหตุ ให้ลดน้ำหนัก ถ้าอ้วน ลดการทำแป้ง น้ำตาลไขมันที่มากเกินไป และเฝ้าติดตามโดยแพทย์ระบบทางเดินอาหารเป็นระยะ ถ้ามีการลุกลามของโรค มีตับอักเสบมากขึ้น คุณหมอจะดูและค้นหาสาเหตุ และมีการตรวจเพิ่มเติมต่อไป
อาหารสุขภาพ มีงานวิจัยว่า การขาดโคลีน ทำให้เป็นโรคนี้ได้ส่วนหนึ่ง เลยแนะนำให้ทาน โคลีนบี ถ้าสาเหตุจากการขาดโคลีน จึงจะหายได้ครับ ตอนนี้ยังเพิ่มตัวที่มีประโยชน์ อีกสองตัวคืองาดำ และเจียวกู่หลาน ที่ควรทาน เรียงลำดับให้เลยดังนี้ครับ
งาดำ (เซซามิ เอส) เจียวกู่หลาน. โคลีนบี เพราะช่วยเรื่องไขมันสะสมในตับ
ซุปราวิท เลซิติน เพราะบำรุงตับ
น้ำทับทิม บำรุงตับ แต่ทานตามที่กำหนดคือวันละ 30-45 ซีซี อย่าทานมากไปนะครับ
ตอบ : ให้หาหมอศัลยกรรมปัสสาวะด้วยครับ โรคบางอย่างเช่น เบาหวานไขมันในเลือดสูง ยาบางชนิดเป็นสาเหตุได้ด้วย
เซกซ์เสื่อมในชาย แนะนำ ถั่งเช่า โสม ไลโคปีน แปะก๊วย กวาวเครือแดง อาร์คแอนด์ออน ทับทิม ครับ
ให้ทานหลังอาหารกลางวันหรือหลังอาหารเย็น (ลองดูว่าอย่างไหนดีกว่ากัน ) วันละเม็ดสองเม็ด เว้นแต่ถั่งเช่าได้ถึง 1-5 เม็ดต่อวัน
ทั้งหมดนี้อาจจะลองทานเป็นบางวันที่จะใช้งาน หรือทุกวันก็ได้ ครับ
ถ้าเสปิรมมีน้อย ตัวที่ช่วยเพิ่มมากที่สุดได้แก่ ถั่งเช่า ไลโคพีน ครับ
ถ้าสเปิรมไม่แข็งแรง แนะนำโคคิวเทน ถั่งเช่า อารค์แอนด์ออน โกจิ ซุปราวิท ซิงค์หรือสังกะสี ไลโคพีน ครับ
พวกนี้ทานวันละเม็ด สองเม็ดหลังอาหารมื้อไหนก็ได้ครับ
และอย่าลืมว่า ความอ้วน ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน มีผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศชายมาก การออกกำลังกายการลดความอ้วน การคุมเบาหวานให้ดี จะทำให้ดีขึ้นอย่างมากมายด้วยครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ต้องรักษาทางการแพทย์เป็นหลักสำคัญเสมอครับ นอกเหนือไปจากนี้
ตอนนี้มีอาหารเสริมหลายตัวแล้ว ที่อาจจะมีผลดี ในการลดหรือช่วยทำลาย เนื้องอกสมองหลายชนิดทั้งที่เป็นมะเร็งและไม่ใช่มะเร็งนะครับ ได้แก่ อีจีซีจี ขมิ้น เรสเวอราทรอล ชา กาแฟ ครับ
ถ้ามะเร็งยังเพิ่ม ขิง และกระเทียม ด้วยครับ สามารถทานได้ ถ้าไม่มีข้อห้ามเช่น โรคตับ หรือกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดนะครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : อาหารเสริมที่ช่วย ทำลายมะเร็งมี สารสกัดจาก ชาเขียว อีจีซีจี กระเทียม โสม เห็ดหลินจือ ครับ และที่บำรุง และนำนำได้ตลอดเวลา ได้แก่ ซุปราวิท โคลีนบี เลซิติน น้ำทับทิม น้ำมะนาว น้ำผลไม้ สไปรูไลน่าครับ เพราะบำรุงตับ และตอนไม่ให้เคโม แนะนำสมุนไพรที่มีงานวิจัยว่าฆ่ามะเร็งชนิดนั้นๆ ตามข้างบน ที่กล่าวแล้ว ได้ครับ ถ้าคนไข้ทานอาหารได้นะครับ ต่อไปเป็นรายละเอียดเพิ่มนะครับ มะเร็งทุกชนิดต้องรักษาคุณหมอเป็นหลักเลย อย่าหนีการรักษานะครับ มะเร็งผิวหนัง รักษาได้ง่ายและมักได้ผล จำนวนมากจะหายขาดได้เลยด้วย เพราะฉายแสงง่าย ผ่าตัดง่าย เห็นชัด ตรวจพบได้เร็ว สำคัญอย่าหนีการรักษาเท่านั้น
มะเร็งแนะนำอาหารอย่างไร
ทางการแพทย์อาหารปกติที่คนทั่วไปทานได้ ผู้ป่วยมะเร็งก็ทานได้ ควรบำรุง ด้วยแป้งน้ำตาลน้ำหวาน เนื้อนมไข่ ให้เพียงพอ ได้เลย
ไม่มีงานวิจัย ว่าเมื่อเป็นมะเร็งไปแล้วการงดเนื้อสัตว์ มังสะวิรัตน์ หรืองดอาหารอะไร จะทำให้มะเร็งโตช้าลง อายุยาวขึ้น นั้น ไม่มีเลย
แต่ถ้าจะกินมังสะวิรัติ ด้วยใจที่มีเมตตาว่าเราจะทำบุญ สงสารไม่ทานเนื้อสัตว์ ย่อมทำได้และดี แต่ถ้าด้วยใจว่า เนื้อสัตว์จะไปส่งเสริมมะเร็งนั้นไม่จริง ไม่มีงานวิจัยเลย
อาหารสุขภาพที่เราจะแนะนำได้มี อย่างไรบ้าง
ที่บำรุง และนำนำได้ตลอดเวลา ได้แก่ ซุปราวิท โคลีนบี เลซิติน น้ำทับทิม น้ำมะนาว น้ำผลไม้ สไปรูไลน่าครับ เพราะบำรุงตับ
ทานสมุนไพรได้ไหม ตอบว่า ได้ ตอนไม่ให้เคโม ช่วงให้เคโม พักสมุนไพรก่อน
เพราะยาเคโม จะทำให้ตับทำงานหนักมากๆบางรายตับอักเสบไปเลย จึงต้องงดยา และสมุนไพร น่ะครับ
พอหยุดให้เคโมสักเจ็ดวัน ค่อย เพิ่มสมุนไพรที่ ช่วยทำลายมะเร็ง ตรงๆ เลย แล้วแต่ชนิดมะเร็งอะไร ดูได้ตามตารางปิรามิดนะครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : เริมเกิดจากเวรกรรม ไม่มีเวรกรรมไม่เป็น จากเชื้อมันซ่อนอยู่ไม่ตายสนิทหรอก พอร่างกายภูมิอ่อนแอ หรือมีปัจจัยอะไรบางอย่างที่เราไม่ทราบ มันก็เป็น
พอเริ่มเป็นต้องรีบหาหมอ ทันที นับเป็นนาที เลย รีบไปด่วน ได้ยา อะไซโคลเวียด่วน จะหายเร็วมากครับ ควรได้ยาใน 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนี้ไม่ได้ผล ช้าไปครับ
ถ้า ทานยาไม่ทัน หรือชอบเป็นซ้ำเป็นประจำ ลองทาน เห็ดหลินจือ กับพลูคาว มันอาจจะทำให้เป็นลดลง หวังว่านะครับ ไม่แน่นอน รับรองไม่ได้ แต่ถ้าจะลองก็ทานได้ครับ วิธีการคือ กินทุกวันๆละเม็ดหลังอาหารเช้า เฉพาะพลูคาว ทานห้าวันเว้นสองวันนะครับ
สองตัวนี้มีงานวิจัยว่าช่วยฆ่าเริมได้ครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : อินซูลิน ทำให้น้ำตาลเข้าทุกเซลล์ของร่างกายได้ ถ้าดื้อต่ออินซูลิน หรือไม่มีอินซูลิน จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง สูงแต่ในเลือด เพราะเข้าเซลล์ไม่ได้ เลยทำให้สูง เกิน 126 อาจจะเป็นสามสี่ร้อย แต่เราจะหิวตลอดเวลา เพราะเซลล์ทุกเซลล์เราไม่มีน้ำตาลเข้าไป เราจะผอมลง และน้ำหนักลดฮวบฮาบ
น้ำตาลที่สูงมาก ในเลือดเมื่อเกินสัก 180 โดยประมาณ จะล้นมาในปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหวาน เลยเรียกว่าโรคฉี่หวาน หรือเบาหวาน
น้ำตาลในปัสสาวะ จะดึงน้ำตาม ทำให้ปัสสาวะมาก เลยหิวน้ำบ่อย ฉี่บ่อย ฉี่หวาน
อาการของเบาหวาน เลย หิวน้ำบ่อย ฉี่บ่อย กินจุ แต่ผอมลง น้ำหนักลดครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ทานได้ครับ เพราะเขาปวด มีการอักเสบกล้ามเนื้อ ทานน้ำมันปลา แคลดีแมกซ์ เถาวัลย์เปรียง คอลลาเจนได้ แต่แก้การคดไม่ได้ ถ้าผ่าจึงจะหาย ถ้าหมอให้ผ่าอย่าลังเลนะ ผ่าเลย เพราะไม่ผ่าจะคดมากขึ้นเรื่อยๆๆๆๆเสมอเลย
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : คนที่มีกลิ่นตัวแรงมากๆ มีสาเหตุมาจากอะไรและมีอาหารเสริมชนิดไหน ช่วยได้บ้างหรือเปล่า จากอาหาร ที่กิน จาก เครื่องเทศ ยา จากไม่อาบน้ำ จากโรคบางอย่างเช่น โรคตับ ไต โรคของต่อมเหงื่อ ครับ สาเหตุต่างกันร้อยแปด ต้องไปตรวจก่อนครับ ไปตรวจด้วย ครับ จึงจะรักษาได้ดูว่าหมอว่าอะไรค่อยว่ากันนะครับ
ถ้าไม่มีโรคไต หรือโรคอื่นที่ควรต้องรักษาเพิ่ม. อาจจะลองน้ำคลอโรฟิลล์ครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : อาหารเสริมสำหรับคนทำงานไม่เป็น เวลา พักผ่อนน้อย ต้องทานตัวไหนบ้างคะ
ในแง่บำรุงสมอง แนะนำ โคลีนบี น้ำมันปลาสี่เอกซ์ แปะก๊วย บาโคพ่า ได้ครับ
ในแง่ความแข็งแรง ความทน ทาน แนะนำ โสม ถั่งเช่า ได้ครับ
ในแง่บำรุงทั่วไป แนะนำ ซุปราวิท โคลีนบี โซย่าเวย์โปรตีนได้
อยากจะกินสมุนไพร รวม เช่น ปัญจะภูตะ ก็ได้ครับ หรือจะทาน ต้านอนุมูลอิสระ เช่น เกรปซีอี แอลซีวิท ได้ครับ
ทุกอย่างถ้าไม่มีข้อห้ามจะทานได้
ข้อห้ามนะครับ
- สมุนไพร ไม่กินในเด็ก เด็กคือต่ำกว่าสิบห้า แต่ สมุนไพร ควรอายุเกินยี่สิบค่อยกินนะครับ เว้นแต่บางรายที่ดีตรงจริงๆ
- สมุนไพรไม่กินในโรคตับ
- น้ำมันปลา โสม ปัณจะ แปะก๊วย ถั่งเช่า เกรปซีอี ห้ามในคนที่ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ปัณจะห้ามในโรคไต โรคตับ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ ; ที่มีงานวิจัยว่า ทำลายมะเร็งลำไส้ได้ ได้แก่เห็ดหลินจือ ชาเขียว สารสกัดชาเชียว อีจีซีจี ขมิ้น ขิง สารสกัดองุ่น กระเทียม ได้หมดเลย เลือกๆได้เลยนะครับ แต่เราไม่ให้สมุนไพร ตอนให้เคโมนะครับ อาหารสุขภาพที่เราจะแนะนำได้มี อย่างไรบ้าง
ที่บำรุง และนำนำได้ตลอดเวลา ได้แก่ ซุปราวิท โคลีนบี น้ำทับทิม น้ำมะนาว น้ำผลไม้ สไปรูไลน่าครับ มะเร็งทุกชนิด ต้องรักษาคุณหมอเป็นหลักเลย อย่าหนีการรักษานะครับ
มะเร็งแนะนำอาหารอย่างไร
ทางการแพทย์อาหารปกติที่คนทั่วไปทานได้ ผู้ป่วยมะเร็งก็ทานได้ ควรบำรุง ด้วยแป้งน้ำตาลน้ำหวาน เนื้อนมไข่ ให้เพียงพอ ได้เลย
ไม่มีงานวิจัย ว่าเมื่อเป็นมะเร็งไปแล้วการงดเนื้อสัตว์ มังสะวิรัตน์ หรืองดอาหารอะไร จะทำให้มะเร็งโตช้าลง อายุยาวขึ้น นั้น ไม่มีเลย
แต่ถ้าจะกินมังสะวิรัติ ด้วยใจที่มีเมตตาว่าเราจะทำบุญ สงสารไม่ทานเนื้อสัตว์ ย่อมทำได้และดี แต่ถ้าด้วยใจว่า เนื้อสัตว์จะไปส่งเสริมมะเร็งนั้นไม่จริง ไม่มีงานวิจัยเลย
ทานสมุนไพรได้ไหม ตอบว่า ได้ ตอนไม่ให้เคโม ช่วงให้เคโม พักสมุนไพรก่อน เพราะยาเคโม จะทำให้ตับทำงานหนักมากๆบางรายตับอักเสบไปเลย จึงต้องงดยา และสมุนไพร น่ะครับ พอหยุดให้เคโม เพิ่มสมุนไพรที่ ช่วยทำลายุมะเร็ง ตรงๆ เลย แล้วแต่ชนิดมะเร็งอะไร ดูได้ตามตารางปิรามิดนะครับ
เช่น สมุนไพร ที่มีงานวิจัยว่าช่วย ทำลายมะเร็งลำไส้ได้ ได้แก่เห็ดหลินจือ ชาเขียว สารสกัดชาเชียว อีจีซีจี ขมิ้น ขิง สารสกัดองุ่น กระเทียม
เช่นเดียวกับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็ง ต่อมลูกหมาก มะเร็ง มะเร็ง เม็ดเลือดขาว
แนะนำ เห็ดหลินจือ ชาเขียว สารสกัดชาเชียว อีจีซีจี ขมิ้น สารสกัดองุ่น กระเทียม ได้หมดเลย เช่นกัน เลือกๆได้เลยนะครับ
มะเร็งอื่น ดูได้ตามตารางมะเร็ง ในหนังสือตารางปิรามิด
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ตอบ ไม่แนะนำครับ เพราะ อาจจะทำได้ไม่สะอาด
และที่สำคัญคือ นมจะเหม็นคาวน้ำมันปลา. ถ้าเด็กไม่ชอบกลิ่นน้ำมันปลา อาจจะทำให้เบื่อนมได้ครับ
ถ้ากลืนไม่ได้ ไปกิน พวกเบรนนี่ โคลีนคิดส์อร่อยด้วยได้ครับ
หรือถ้าเขาเคี้ยวน้ำมันปลาได้ และชอบ ไม่เหม็นคาว ก็เคี้ยวกินได้ครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : หลักการคือ รักษาทางการแพทย์ นะครับ สมัยนี้ต้องให้หมอกระดูกและข้อตรวจรักษาเสมอ ถ้ามีการผ่าตัด อาหารเสริมควรรอหลังการผ่าตัดสักสิบวัน เผื่อมีส่ิงใดแทรกซ้อนจะได้ไม่รบกวนการประเมินรักษาครับ ถ้าใส่เฝือกก็ควรผ่านไปเจ็ดวัน เพราะเจ็ดวันแรก ยังบวม และมีปัญหาต้องแก้ไขปรับปรุงเฝือกได้ครับ
อาหารเสริม แนะนำ แคลดีแมกซ์ เพราะกระดูกต้องการแคลเซียมมากไปซ่อมแซมครับ อาจจะทานวัน 600 มก วันละเม็ดสองเม็ดในคนทั่วไปที่ไม่ทานนมนะครับ
และทานงาดำได้ด้วย งาดำมี เซซามิน ช่วยเพิ่มมวลกระดูกจากการลดการทำลายกระดูกครับ
สามารถ ทาน โซย่าเวย์โปรตีน คอลลาเจน ได้ทุกแบบ ซุปปราวิท
ใบบัวบก ช่วยสมานแผลได้ด้วย ใบบัวบกเป็นสมุนไพร ห้ามในโรคตับอักเสบและตับแข็งนะครับ
รักษาหมอไปตามหมอนัดเสมอครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า ถ้าเจอคนมาปรึกษาแบบนี้ อย่าใจร้อนรีบขายของ เพราะเรากำลังเจอกับฝ้าที่รักษายากมาก เพราะไม่ใช่ฝ้าที่เกิดจากแสงแดดธรรมดา แต่เกิดจาการทายาฝ้าแรงๆ มาเป็นเวลานานๆ
ยาทาฝ้าที่ขายตามตลาดนัด ขายผ่านอินเตอร์เนต หรือแม้แต่คลีนิกรักษาฝ้าบางแห่ง จะมีส่วนผสมของสารที่เรียกว่าไฮโดรควิโนน เป็นสารที่ทำให้ฝ้าจางลงอย่างรวดเร็ว แต่ข้อเสียคือจะหยุดใช้ไม่ได้ หยุดเมื่อไหร่หน้าจะกลับดำขึ้นมาใหม่ เรียกว่าอาการรีบาวน์ (Rebound) ใช้ไปนานๆหน้าจะบางลง มองเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนัง เซลบางส่วนจะตายไป ทำให้เกิดอาการหน้าเป็นลายๆ สีดำ ขาว แดง สลับกันไป อาการเหล่านี้จะเป็นไปตามบริเวณที่สัมผัสกับยาไฮโดรควิโนน
เจอแบบนี้อย่ารีบ สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้ความรู้ว่าตัวเดิมที่ใช้เป็นสารอันตราย และถ้าไม่หยุด หน้าจะเสียหายยิ่งกว่านี้
แต่ถ้าหยุดยาฝ้าเดิม จะต้องทำใจยอมรับภาวะรีบาวน์ คือหน้ากลับดำมากขึ้น ไม่ใช่เพราะใช้เครื่องสำอางของเราแต่เป็นผลจากยาฝ้าตัวเดิม คล้ายๆคนที่ติดเหล้า เมื่อหยุดเหล้าใหม่ๆจะเกิดอาการปวดท้องหงุดหงิดบางคนมือสั่น ต้องกลับไปกินเหล้าอีก ที่เรียกว่าอาการลงแดง ในเรื่องยาฝ้าแรงๆนี้ก็เช่นเดียวกัน หน้าของเขาจะดำมากขึ้นกว่าเดิม ให้ถามว่าเขาจะยอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้ ก็หยุดแนะนำต่อเลย เพราะถือว่าคุยกันไม่ได้ โอกาสที่เขาจะผิดหวังกับเรามีมาก เราไม่ควรแนะนำต่อ
ถ้าเขายอมรับได้ค่อยเริ่มแนะนำทีละขั้นตอนมี 2 แนวทาง ดังนี้
1 ) หยุดทุกตัวทันที เรียกว่าใช้วิธีหักดิบ ปล่อยให้หน้าเขาดำจนเต็มที่ 2-3 สัปดาห์ แล้วค่อยเริ่มของเรา
2 ) ขอไม่หักดิบ คืออยากเริ่มใช้ของเราเลย ให้เริ่มทีละตัว เริ่มที่กันแดด ก่อน ทาทุกวัน ไม่ว่าจะออกแดด หรืออยู่ในบ้าน คุยให้เข้าใจว่า หน้ายังไงก็ดำแน่ๆ แต่เป็นการเตรียมผิวให้พร้อม สำหรับขั้นต่อๆไป
ผ่านไป 1 สัปดาห์ ทารีแพร์รี่ เพิ่มอีกตัว หน้าเขาก็ยังดำอยู่ ไม่ต้องตกใจ ให้กำลังใจ ว่าต้องใช้เวลา
ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ เริ่มชุดครีมทาฝ้า ครีมปรับสภาพสีผิว ใช้วิตามินซีมาสค์หน้า สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครีมกันแดด รีแพร์รี ให้ใช้ต่อเนื่อง รอยดำๆ ให้ปิดด้วยครีมรองพื้น หรือแป้ง กลางคืนถ้าผิวแห้งบำรุงด้วยไนท์ครีม อาจเลือกเป็นตัวไหนก็ได้ตามใจชอบ
ทานอาหารเสริม กลุ่มเกรปซีอี แอคติไวท์ หรือ กลูต้าแอมมิโน 750 อาจจะเพิ่ม แอสต้าแซนธิน และ แกรนเดอร์ ร่วมไปด้วย
ด้วยวิธีนี้ จะค่อยๆทำให้หน้าของเขาดีขึ้น อาจไม่หายขาด เพราะฝ้าบางอย่าลึกมาก บอกความจริงกับเขาว่ารักษายังไงก็ไม่หายขาด เราต้องป้องกันไม่ให้ฝ้าเป็นมากขึ้น และค่อยๆจางหาย ผิวดูดี สุขภาพผิวไม่แย่เหมือนแต่ก่อน
ผู้แนะนำต้องหมั่นไปพูดคุย ให้กำลังใจ จะทำให้เขาประสพความสำเร็จในการรักษาฝ้า และมีความมั่นใจที่จะใช้ตัวอื่นๆต่อไป
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : คนที่ต้องการเน้นกล้ามเนื้อ ต้องเน้น โปรตีน ในการสร้างกล้ามเนื้อ โปรตีนธรรมชาติ มีในเนื้อนมไข่
ถ้าจะอาหารเสริม แนะนำ โซย่าเวย์ 1-4 แก้ว หรือไฮเวย์โปรตีน และ ฟิตแอนเฟิรม 1-20 เม็ด เช้าเย็น หรือก่อนและหลังออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงนะครับ จะสร้างกล้ามเนื้อให้แน่น ขึ้น ยี่สิบเม็ดนี้ระดับเพาะกายนะครับ คนธรรมดา เม็ดสองเม็ดก็ลองดูก่อนได้ครับ และถ้าอยากมีกล้ามเนื้อมากๆ ต้องกินโปรตีนมากๆ ก่อนออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกาย และต้องมีการเพาะกาย ออกกำลังกายมากๆ ตามวิธีการของการเพาะกาย โปรตีนมากๆ มีในเนื้อ ไข่ขาว อาหารเสริมมี ไฮเวย์โปรตีน ซึ่งมีโปรตีนมากกว่าโซย่าเวยโปรตีนสี่เท่าครับ
ที่สำคัญคือ ต้องมีการออกกำลัง
ยกเวทยิ่งดีครับ ผู้หญิง 1 กก ผู้ชาย ห้าถึงสิบกิโลนะครับ จึงจะเรียกเนื้อได้ครับ เพาะกาย มีกรรมวิธี และน้ำหนักอาจจะต้องใช้มากกว่านั้น แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : จริงครับ ถ้าเยอะมากเกินไปในแต่ละวัน ร่างกายต้องการทุกวันนะครับ วันละ 800-1200 ถ้าได้ไม่พอ จะกระดูกบาง แต่ถ้าทุกว้นได้มากไปเช่นเกิน สองพัน สองพันห้าต่อวัน จะทำให้เป็นนิ่วได้ครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ห้ามในโรคไต ไตวาย ล้างไต แพ้ซีมินดริ้งมีข้อห้ามอะไรบ้าง
ห้ามในโรคไต ไตวาย ล้างไต แพ้อาหารทะเล มีอาการบวม หมอให้จำกัดเกลือ หรือจำกัดน้ำ เบาหวานที่มีน้ำตาลในเลือดสูงหรือคุมน้ำตาลไม่ดี
คนท้อง คนให้นมบุตร และเด็กเล็กกว่าสามขวบ
ที่ดีและปลอดภัยที่สุดคือ คนไข้โรคไตทุกชนิดไม่แนะนำ เนื่องจากเกลือแร่ และแร่ธาตุหลายตัวต้องขับออกทางไต เว้นแต่จะปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ผู้ดูแลคนไข้โรคไตคนนั้นโดยตรงก่อน
เนื่องจากแพทย์ผู้ดูแลคนไข้จะเห็นการดำเนินโรคและผลเลือดทุกอย่างของคนไข้ ถ้าอนุญาตจึงจะปลอดภัยและดีที่สุด สำหรับโรคไตนะครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ส่วนมาก ทานได้ ตามต้องการ เช่น แอสต้าแซนธิน โซย่าเวย์ แอลซีวิต ซีมินดริงค์ น้ำทับทิม ยูซีทู แคลดีแมกซ์ งาดำ
ที่ห้ามได้แก่
แปะก๊วย โสม กระเทียม น้ำมันปลา และน้ำมันดาวอินคา ( มีโอเมก้า 3 ) เห็ดหลินจือ ถั่งเช่า ว่านชักมดลูก เจียวกู่หลาน น้ำมันพริมโรส และโคเอนไซม์ คิวเทน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และ สารสกัดจาก เปลือกองุ่นแดง ขมิ้น น้ำมันมะกอก เรสเวอรทรอล ชาเขียว เหล่านี้มีงานวิจัย ว่ามีผลต่อเกร็ดเลือด ปัญจะภูตะด้วยครับ เพราะมีโสมกับ เห็ดหลินจือ
ที่ห้าม เพราะ เป็น อาหารเสริม ที่มีผลต่อ การแข็งตัวของ เกร็ดเลือด ที่เราอาจจะเลี่ยง ถ้ามีเลือดออก ประวัติเลือดออกในสมอง ประวัติเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือมีเลือดออกผิดปกติ ที่อื่นๆ หรือได้ยาต้านการแข็งต้วของเลือดและเกร็ดเลือด
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ตัวที่มีประโยชน์ในตับอักเสบ ตอนนี้อันดับหนึ่ง เป็นถั่งเช่า. และรองลงมาเป็นอาร์ติโชค. นอกจากนี้ สามารถบำรุงตับได้ด้วย งาดำ เลซิติน ซุปราวิท โคลีนบี น้ำทับทิม ครับ
ตับอักเสบมักจะมาจากไวรัสตับอักเสบเอบีซี สารพิษเช่น เหล้า ยาที่มากเกินขนาด และสมุนไพร บางชนิด
ไวรัสเอ มักติดจากอาหาร ตอนอักเสบ กิน ซุปราวิท โคลีนบี สไปรูน่า น้ำทับทิมได้ ไวรัสนี้หายเลย ไม่เรื้อรัง
ไวรัสตับอักเสบบี มักติดจากการได้เลือด เพศสัมพันธุ์ ใช้มีดโกนร่วมกัน และติดไปยังลูกตอนคลอด เมื่อเป็นฉับพลัน พักผ่อนดีๆ ส่วนมากจะหายเอง ถึง 90 % มีสักสิบเปอร์เซนต์ที่ไม่หาย จะเป็นเรื้อรัง กลุ่มนี้ทำอย่างไรก้ไม่หายอีกเลย ไม่ว่าใดๆ จะกินยา ฉีดยา กินอาหารเสริม ชาตินี้ไม่หาย
ไวรัสตับอักเสบแบบซี จะเรื้อรังมากกว่า บีอีก มักติดจากการได้รับเลือด ติดได้เหมือนไวรัสบีครับ
ที่เรื้อรังคือเนื้อตับอักเสบ ตลอด จะมีค่า เอนไซม์ การทำงานตับสูง เราจะรู้ได้ด้วยการเจาะเลือดคือค่า SGOT SGPT สุงกว่า 40 IU ถ้าสูงเช่นนี้ คือเนื้อตับอักเสบมาก
ในตับอักเสบทั่วไป มีเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าเอนไซม์ SGOT SGPT ไม่สุงกว่า 40 IU จะให้กิน เพิ่ม ขมิ้น ชาเขียว ได้ แนะนำสามตัว เพราะ ขมิ้น และ ชาเขียว หรืออีจีซีจี ช่วยฆ่ามะเร็งตับ ครับ
ถ้าSGOT SGPT สุงกว่า 40 IU แนะนำ ถั่งเช่า และอารติโชค สำหรับสมุนไพรอื่น จะไม่แนะนำสมุนไพร ทุกชนิด
และบำรุงตับได้ด้วย งาดำ เลซิติน ซุปราวิท ถังเช่า โคลีนบี น้ำทับทิม สาหร่ายสไปรูไลน่า นะครับ
ถ้าตับแข็ง แนะนำถั่งเช่า ครับ และบำรุงตับด้วย งาดำ เลซิธิน ซุปราวิท โคลีนบี งาดำ สไปรูน่า น้ำทับทิมได้ ครับ
ถ้าเหลือง บวมหอบ ถือว่าหนักมากงดสมุนไพรอาหารเสริมหมดให้หมอรักษาจะได้ไม่กวนการประเมินรักษาครับ บางรายต้องเจาะท้อง เอาน้ำออกเป็นต้นครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : แคปซูลทั่วไปทั้งอาหารและยา จะทำจากหนัง กระดูกวัว ครับ คือ ปกติ วัวจะโดนฆ่า ถ้าไม่มีนม คือวัวตัวผู้ จะโดนฆ่ามากินเนื้อ ส่วนหนังกระดูกจะต้องทิ้ง เขาก็นำไปเคี่ยวพัฒนามาทำแคปซูล ดังนั้นวัวไม่ได้ตายเพราะมาทำ แคปซูล แต่ตายเพราะคนจะกินเนื้อ ส่วน กระดูกและหนังแทนที่จะทิ้ง เลยนำมาแปรรูปต่อ ดังนั้นคนกินเจ ก็กินได้ถ้าปล่อยวางเรื่องนี้และเข้าใจได้ แต่ถ้ายึดไว้ ก็กินไม่ได้ แล้วแต่ใจเราไม่ว่ากันครับ ส่วน วัวนม นั้นจะไม่ตายเพราะนมราคาแพง ทำนมขายไปก่อน หมดนมเมื่อไรค่อยโดนฆ่ามากินครับ แคปซูลทำจากข้าวสาลีก็มีครับ แต่แพงกว่ามาก ใครทำ จะประกาศไปเลยว่า ทำจากข้าวสาลี เพราะของแพง ต้องประกาศกันหน่อย ใครเฉยๆไม่พูดไม่จา ทำจากวัวหมดครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : สำหรับ เบาหวาน สรุปที่ดี สั้นๆก่อน คือ โคลีนบี ซุปราวิท แอลซีวิต ถั่งเช่า เกรปซีอี เห็ดหลินจือ แอสต้าแซนธิน เจียวกู่หลาน มะรุม ขิง เลือกๆได้ ตามชอบ นะครับ
สำหรับ ความดันสูง ถ้ามี เน้นยาเป็นหลักนะครับ อาหารเสริมไม่แน่นอน สำหรับความดัน และห้ามหยุดยาเองด้วย ในเบาหวาน ถ้าความดันสูงเพียงเดือนเดียว อาจจะทำให้ไตวาย ไตเสียเร็วมากๆ จนต้องล้างไตตลอดชีวิตไปเลยก็มี
สำหรับเรื่องไต มักเป็นได้เสมอจากเบาหวาน นานๆ และยิ่งมีความดันสูงเกี่ยวข้องด้วย ไขมันในเลือดสูงด้วย สองอย่างนี้ถ้าคุมไม่ดี จะไตวายได้เสมอ ไตวายในประเทศไทย ครึ่งหนึ่ง มาจากโรคเบาหวานก่อนนะครับ
การบำรุงไต ในตอนนี้ อันดับหนึ่ง แนะนำ ถั่งเช่า ครับ มีงานวิจัยว่าดีมากที่สุด แซงทั้งหมด รองลงมาเป็น เห็ดหลินจือ เกรปซีอี แอสต้าแซนธิน
และคุมความดันโลหิตให้ไม่สูง คุมเบาหวานและไขมันในเลือดให้ดี จะชะลอไตวายได้มาก โดนเฉพาะความดันสูงถ้ามี ต้องคุมให้ดีที่สุดครับ
ถ้ามีขาบวม ต้องสงสัยว่าจะมีไตวายด้วยเสมอ รีบไปตรวจด่วนด้วยครับ
ไขมันในเลือดสูง ถ้าเป็นชนิด โคเลสเตอรอลสูง ทานกระเทียม ไฟโตเสตอรอล น้ำมันข้าว ได้ ถ้าเป็นชนิดไตรกลีเซอไรด์สูง ต้องทานน้ำมันปลา คู่กับกระเทียม จะเป็นน้ำมันปลาธรรมดา หรือ น้ำมันปลาสี่เอกซ์ก็ได้ครับ
เบาหวานต้องรักษาด้วยแพทย์เป็นหลักเสมอ คือได้ยากิน หรือ ยาฉีด คุมอาหาร ห้ามหยุดยาเว้นแพทย์สั่ง เป็นโรคประจำมักไม่หายขาดได้เลย ต้องใช้ยาและการคุมอาหารตลอดชีวิต ใครที่ไหนบอกว่า หายขาดได้ ไม่จริงนะครับ
เบาหวาน ห้าม ชุดลดน้ำหนักครับ จะน้ำตาลต่ำไป เป็นลมหมดสติได้
อาหารสุขภาพที่มีประโยชน์ในเบาหวาน มีหลายตัวทีเดียวดังนี้
ถั่งเช่า ช่วยลดน้ำตาลในเบาหวาน และปกป้องไต ในเบาหวาน ลดการทำลายไต ชลอไตวายในเบาหวาน มีงานวิจัยเรื่องนี้มากที่สุด รองลงมาเป็น เห็ดหลินจือ สารสกัดเมล็ดองุ่น เกรปซีอี แอสต้าแซนธิน
ถ้าเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูงต้องทานยา ควบคุมความดันให้ดี ถ้าความดันสูงจะไตวายได้ง่าย บางรายไม่ได้คุมความดันเพียงสองสามเดือน ไตเสียมาก จนต้องล้างไตเลย
เจียวกู่หลาน. ช่วยลดน้ำตาลในเลือดและยังมีสมุนไพร อีกหลายตัวที่ช่วยลด เช่น มะรุม ขิง เห็ดหลินจือ จะ เหมาะในผู้ที่น้ำตาลในเลือดค่อนข้างสูง และคุมไม่ได้ด้วยยา อาจทานเสริมยาอีกที เช่น รักษาแล้วน้ำตาลยัง สูงเกิน 140 150 อย่างนี้ทานได้
แต่ถ้าน้ำตาลในเลือดคุมดีแล้ว เช่นต่ำกว่า 120 ไม่ควรทานสมุนไพรลดน้ำตาล จะน้ำตาลต่ำไป จะเป็นลมหมดสติได้
ใบบัวบก ช่วยขยายเส้นเลือดฝอย เพิ่มออกซิเจน ช่วยเรื่องแผลหายช้า ในเบาหวาน
ลูทีน ซีแซนทีน หรือแอลซีวิต ลดการเกิดต้อกระจก มีประโยชน์ เนื่องจากโรคเบาหวานเพิ่มอุบัติการณ์เป็นต้อกระจกมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า
ถ้ามีชา อาจจะเป็นเส้นประสาทอักเสบ แนะนำ โคลีนบี น้ำมันปลา4X พริมโรส และพวกต้านอนุมูลอิสระ เช่น เกรปซีอี แอสต้าแซนธินได้ด้วยครับ
พิจารณาเลือกได้นะครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : เน้นแต่การหลีกเลี่ยง ถ้าเด็กก็ไปทานนมจากถั่วเหลืองแทน ขนมเด็ก แบบเม็ดเคี้ยวของเราก็ทานได้ เอคินาเซีย และเซเว่นบีซีครับ
เด็กที่แพ้นมวัวทานแคลซีนของเราได้ไหมค่ะแล้วมีอาหารเสริมตัวไหนที่จะแนะนำได้บ้างค่ะ
ไม่ได้ครับ ทานขนมเด็กเราได้แต่ เอคินาเซีย และทานเซเว่นบีซี น้ำผลไม้ วีทกราส ได้ครับ
โซย่าเวย์ ก็ไม่ได้นะครับ เวย์ ทุกตัวไม่ได้เลยครับ
รายละเอียดการแพ้นมวัวแนะนำอ่านต่อที่นี่ได้เลยครับ
http://haamor.com/th/แพ้นมวัว/
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : คนละตัวกัน แต่ผลออกมาอย่างเดียวกัน คือทำให้เลือดหยุดยากขึ้น เลือดออกง่าย ในบางราย เส้นเลือดในสมองแตกได้ ถ้าความดันสูง
และเลือดออกที่อื่น เช่นมีแผล มีดบาด ก็จะหยุดยาก และข้อห้ามก็อย่างเดียวกัน จะถอนฟัน จะผ่าตัดต้องหยุดยาล่วงหน้า เจ็ดวันเหมือนกัน การตอบสนองต่อยาในบางคนไม่เท่ากันคือได้นิดหน่อยก็เหมือนได้มาก เป็นต้น. หลายแห่งต้องใช้ใบรับรองแพทย์ว่า ผ่าตัดได้ ถอนฟันได้ จึงจะยอมทำฟันหรือผ่าตัดให้ อาหารเสริมก็ห้ามแบบเดียวกัน
ยาพวกนี้จะ ได้รับเสมอ ในคนไข้โรคหัวใจ ขาดเลือด เจ็บหน้าอกเส้นเลือดหัวใจตีบ ทำบายพาส ใส่บอลลูน และคนไข้เส้นเลือดสมองตีบ เป็นอัมพฤษ อัมพาต. นอกนั้นจะได้ในบางราย ที่แพทย์สั่งเป็นพิเศษครับ
ดังนั้น ถ้ามีประวัติเส้นเลือดสมองแตก หรือทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือเกล็ดเลือด เราจะห้าม อาหารเสริม ที่มีผลต่อ การแข็งตัวของ เกร็ดเลือด ได้แก่
ห้าม แปะก๊วย โสม กระเทียม น้ำมันปลา และน้ำมันดาวอินคา ( มีโอเมก้า 3 ) เห็ดหลินจือ ถั่งเช่า ว่านชักมดลูก เจียวกู่หลาน น้ำมันพริมโรส และโคเอนไซม์ คิวเทน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และ สารสกัดจาก เปลือกองุ่นแดง ขมิ้น น้ำมันมะกอก เรสเวอรทรอล ชาเขียว เหล่านี้มีงานวิจัย ว่ามีผลต่อเกร็ดเลือด ปัญจะภูตะด้วยครับ เพราะมีโสมกับ เห็ดหลินจือ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ตัวที่ดี และไม่ดี มีดังนี้ครับ ไตรกลีเซอไรด์ สูงมากไม่ดี
โคเลสเตอรอล มีหลายแบบ โดยทั่วไป รวมๆ สูงมากมักไม่ดี เพราะมักจะมี ชนิด LDL มากกว่า HDL
ถ้าแยกย่อย จริงๆ
แบบ แอลดีแอล LDL โคเลสเตอรอล สูงมาก ไม่ดี
แบบ HDL โคเลสเตอรอล สูงมากดี ต่ำมากกลับไม่ดีครับ
ตัวที่ลดไขมัน โคเลสเตอรอล ได้ดีสุดคือยาคุณหมอ
และอาหารเสริมได้แก่ กระเทียม น้ำมันข้าว ไฟโตสเตอรอล น้ำมันมะกอก ถั่งเช่าครับ ตอนนี้มี ขิง อีกตัวด้วย
ถ้าไตรกลีเซอไรด์สูง น้ำมันปลา ช่วยลดได้ครับ
กลูโคแมนแนน แฟตบรอกเกอร์ ก็ช่วยลดไขมันทั้งหมดได้บ้างเช่นกัน แต่สองตัวนี้ต้องกินห่างยาสองสามชั่วโมงนะครับ
ถ้าเป็นไขมันในผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบ ตัวช่วยมี งาดำ ทับทิมเม็ด น้ำทับทิม ก็ได้ กระเทียม อีจีซีจี ครับ
รายละเอียดน่ารู้อื่น ๆมีดังนี้ครับ
โรคไขมันในเลือดสูง เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ อาจเป็นระดับโคเลสเตอรอลสูง หรือระดับไตรกลีเซอร์ไรด์สูงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือสูงทั้งสองชนิดก็ได้ ภาวะไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ไขมันในเลือดมีหลายชนิดแต่ที่สำคัญได้แก่...
1. โคเลสเตอรอล ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองและอีกส่วนหนึ่งได้รับจากอาหาร แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1.1 โคเลสเตอรอลชนิดอันตราย (แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล / LDL) ถ้ามีในระดับสูงเกินไปจะไปสะสมที่เยื่อบุด้านในของหลอดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง ตีบ หรืออุดตัน
1.2 โคเลสเตอรอลชนิดดี (เอช ดี แอล โคเลสเตอรอล / HDL) เป็นชนิดที่มีประโยชน์ ทำหน้าที่นำโคเลสเตอรอลที่เหลือไปทำลายที่ตับ ผู้ที่มีโคเลสเตอรอลชนิดนี้สูงจะช่วยป้องกันการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
2. ไตรกลีเซอร์ไรด์ เป็นไขมันอีกชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเองและได้รับจากอาหาร ทำให้หลอดเลือดอุดตันได้
สาเหตุของการเกิดภาวะไขมันในเลือดสูง
1. ความผิดปกติทางกรรมพันธุ์
2. กินอาหารที่มีไขมันโคเลสเตอรอลสูง หรืออาหารที่ให้พลังงานมากเกินความต้องการของร่างกาย
3. โรคหรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ โรคเบาหวาน โรคไต ยาขับปัสสาวะ ยาสเตียรอยด์ เป็นต้น
4. การดื่มสุราในปริมาณมากเป็นประจำ ทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง
5. ขาดการออกกำลังกาย
อันตรายจากภาวะไขมันในเลือดสูง
ระดับไขมันในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดแดงแข็ง ตีบ อุดตัน ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงขาตีบตัน ตับอ่อนอักเสบ เป็นต้น
การรักษาภาวะไขมันในเลือดสูง
1. ควบคุมอาหาร
อาหารที่ควรทาน
- นมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนย
- เนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โดยแยกเอาไขมันและหนังออกให้หมด ถั่วเมล็ดแห้ง
- ข้าวที่ไม่ขัดสีมาก ขนมปังโฮลวีท
- ผักสดต่าง ๆ รวมทั้งกระเทียม ข้าวโพด
- ผลไม้ไม่หวานจัด
- ใช้ไขมันจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำ ประกอบอาหาร
- อาหารประเภทต้ม ต้มยำ แกงส้ม ยำ นึ่ง อบ ย่าง (ไม่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ)
- ไขมันจากปลาทะเล สามารถลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ได้ ทำให้เกล็ดเลือดจับตัวน้อยลง
- อาหารที่มีไฟเบอร์ (เส้นใยอาหาร) สูง จะช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล ทำให้การดูดซึมลดลง
- อาหารที่มีไฟเบอร์สูง ได้แก่ แบ่งอาหารตามปริมาณไฟเบอร์ในอาหาร
อาหารที่ไม่ควรทาน
- อาหารที่มีไขมันมาก ได้แก่ อาหารทอด เช่น ไก่ทอด ไข่เจียว กล้วยแขก แกงกะทิ หลนต่าง ๆ ไส้กรอก กุนเชียง
- เนื้อสัตว์ติดมัน หนังเป็ด หนังไก่ ไข่แดง แฮม เบคอน หมูยอ
- อาหารทะเลบางชนิด เช่น ปลาหมึก หอยนางรม
- ขนมหวานที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล และกะทิหรือมะพร้าว เช่น กล้วยบวชชี ขนมหม้อแกง ข้าวเหนียวหน้าต่าง ๆ
ข้าวโพดคลุกมะพร้าวน้ำตาล
- ขนมที่มีไขมันแฝงอยู่ เช่น ขนมขบเคี้ยว โดนัท เค้ก คุกกี้ ไอศกรีม
- ไขมันที่ได้จากสัตว์ เช่น เนย มันหมู มันวัว มันไก่
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันละ 30 นาที เป็นการเพิ่มการเผาผลาญอาหาร ช่วยลดโคเลสเตอรอลและเพิ่มระดับเอชดีแอลในเลือด ซึ่งเป็นตัวป้องกันการเกิดหลอดเลือดแดงแข็ง
3. งดสูบบุหรี่ บุหรี่ทำให้เอชดีแอลในเลือดต่ำลง และเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
4. ลดน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักเกิน
5. ปรึกษาแพทย์ ติดตามดูระดับไขมัน บางรายอาจต้องใช้ยาช่วยลดระดับไขมัน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ชี้แนะและติดตามผลการรักษาต่อไป
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ถ้าเป็นฝีในตับจริงคือติดเชื้อเสมอครับ การเกิดฝีนี้มาจากเชื้อโรคได้หลายชนิด ต้องได้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ แนะนำว่า ให้ รักษาเต็มที่ มักหายหมดทุกคน
อาหารเสริมไม่ได้ช่วยรักษาฝี ไม่ได้ช่วยฆ่าเชื้อ ได้แค่บำรุงตับ เช่น ซุปราวิท โคลีนบี เลซิติน น้ำทับทิม ครับ
แต่บางกรณี แม้คุณหมอจะบอกฝีในตับ แต่แท้จริงเป็นมะเร็งแทรกอยู่ด้วย แต่ตอนแรกอาจจะดูไม่ออก นึกว่าเป็นฝี อย่างนี้ก็มักไม่หายละ และก็ต้องรักษากันไป บางทีต้องรักษาฝีก่อน แล้วต่อด้วยรักษามะเร็งก็มีครับ
รักษาทางการแพทย์ เต็มที่ จะหนีหมอ จะขาดการรักษาไม่ได้เลย และช่วงแรก ไม่แนะนำอาหารเสริม จนกว่าการรักษาจะดีขึ้นด้วย ไม่เช่นนั้นจะรบกวน การประเมินรักษาครับ
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : จากหินปูนบริสุทธิ์ครับ คือ แคลเซียมคาร์บอเนท
ซีมินดริงค์กับแคลดีแมก ในแง่แคลเซียม แตกต่างกันอย่างไร ?
ซีมินดริงค์ มีแคลเซียม 160 มก. แคลดีแมกซ์ 450มก. และ แคลดีแมกซ์ 600มก. ดังนั้น ถ้าแคลดีแมก 600 มก. คือแตกตัวให้แคลเซียม 600 มก เลย จะมีแคลเซียมมากกว่า 4 เท่าครับ
ในสูตร Cal-D-Mag 600 หนัก 1,908 mg/เม็ด เราใส่ Calcium carbonate 78.62% หรือ 1500 ม.ก. คือใส่เยอะมาก และ Calcium carbonate แตกตัวให้ calcium ที่ 40% ดังนั้น ใน Cal-D-Mag 600 จำนวน 1 เม็ด จะให้ Calcium 1500 ม.ก จากการคำนวน ดังนี้ 1,908 x 78.62%=1,500 mg. และแตกตัวให้แคลเซียม 600 ม.ก. ดังนี้
1,500 x40%=600 mg
ทั้งคู่เป็น แคลเซียมคาร์บอเนท ( CaCO3 ) เหมือนกัน แต่ รูปร่างต่างกันหน่อย ทั้งซีมิน และ แคลดีแมก เป็น แคลเซียมคาร์บอเนท ซึ่งเป็นแคลเซียมชนิดที่ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีที่สุดในโลก อยู่แล้ว คือ 40% นะครับ สูงกว่า ทุกแบบ และใช้เป็นยา กินกัน ทั่วโลกครับ แคลเซียมคาร์บอเนท ของซีมิน มาจากสาหร่ายแดงในทะเล แคลเซียมคาร์บอเนทของแคลดีแมกมาจากหินปูนบริสุทธิ์
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : วิตามินซี ในผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน มีอยู่ในอาหารเสริมหลายตัวเลย แต่ละตัวมีวิตามินซีกี่มิลลิกรัมบ้าง ตามรายละเอียดด้านล่างครับ
เซเว่นบีซี มีวิตามินซี 15 มก. (ต่อเม็ด)
แอคติจุยซ์ มีวิตามินซี 60 มก. ( ต่อซอง )
ซุปราวิท มีวิตามินซี 60 มก. (ต่อเม็ด)
เกรปซีอี มีวิตามินซี 50 มก. ( ต่อเม็ด)
เคอรคิวมาซีอี มีวิตามินซี 20 มก. (ต่อเม็ด)
โกตูล่า ซี อี มีวิตามินซี 13 มก. (ต่อเม็ด)
คลอโรฟิล ซี โอ มีวิตามินซี 60 มก. (ต่อซอง)
มะรุม ซี มีวิตามินซี 15 มก. (ต่อเม็ด)
จินเจอร์ ซี มีวิตามินซี 40 มก. (ต่อเม็ด)
เกรป ซี อี แมกซ์ มีวิตามินซี 60 มก. (ต่อเม็ด)
เอส เลมอน ที มีวิตามินซี 60 มก. (ต่อกล่อง)
กิฟฟารีน บาโคพา มีวิตามินซี 50 มก. (ต่อเม็ด)
วีทกราส มีวิตามินซี 36 มก. (ต่อซอง)
แอสตาแซนทิน, แอสตาแมกซ์ มีวิตามินซี 30 มก. (ต่อเม็ด)
คอลลาเจน แมกซ์ มีวิตามินซี 30 มก. (ต่อเม็ด)
แกรนด์เดอร์ มีวิตามินซี 30 มก. (ต่อเม็ด)
แคล ดี แมก 600, แคลดีแมก มีวิตามินซี 30 มก. (ต่อเม็ด)
ยู ซี ทู มีวิตามินซี 30 มก. (ต่อเม็ด)
ไลโคพีน มีวิตามินซี 30 มก. (ต่อเม็ด)
เซซามิ เอส มีวิตามินซี 15 มก. (ต่อเม็ด)
ถั่งเช่า M, ถังเช่า W มีวิตามินซี 10 มก. (ต่อเม็ด)
เบต้า กลู คิดส์ มีวิตามินซี 9 มก. (ต่อเม็ด)
อิชินาเชีย มีวิตามินซี 4.68 มก. (ต่อเม็ด)
ร่างกายของเราต้องการวิตามินซีวันละ 60 มก.
ถ้าต้องการ ทานเม็ดเกิน 60 มก. จะต้องขี้นทะเบียนเป็นยา ซื้อได้ในร้านขายยา ครับ
ถ้าทานปริมาณมากเกินวันละ 500-1000 เสี่ยงต่อเป็นนิ่วในไตครับ
ถ้าต้องการฤทธิ ต้านการอนุมูลอิสระมากๆ ของวิตามินซี
แนะนำแอสต้าแซนธินครับ เพียง 1 มก. แรงเท่า วิตามินซี 6000 มก. เลย ในแง่ต้านอนุมูลอิสระนะครับ
ในแง่การป้องกันและช่วยรักษาโควิด 19 หรือหวัดอื่นๆ มีงานวิจัยหลายงาน พบว่า วิตามินซีไม่ช่วย แต่เรื่องวิตามินซี กับหวัดทั้งหลาย คุณหมอทั้งหลายมากมาย ก็ยังเชื้อว่า มีส่วนช่วย อยู่นั่นเองครับ
ขอขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : สำหรับ สมุนไพร ที่มีงานวิจัยว่าช่วยได้คือ ถั่งเช่า จะทานได้ ถ้าไม่เป็นตับแข็งหรือกินยาต้านการแข็งตัวเลือด หรือเกล็ดเลือดครับ และไม่กินตอนกำลังให้เคโมครับ
โดยทั่วไปเรื่องมะเร็ง อาหารสุขภาพที่เราจะแนะนำได้มี อย่างไรบ้าง..?
ในมะเร็งทุกชนิดเลย ที่บำรุง และนำนำได้ตลอดเวลา ได้แก่ ซุปราวิท โคลีนบี แอสต้าแซนธิน เลซิติน ทานได้จนถึงมะเร็งระยะสุดท้ายเลย
ส่วน น้ำทับทิม น้ำวีทกราส น้ำผลไม้ สไปรูไลน่า ทานได้ แต่ถ้ามีตัวบวมขาบวม ต้องงดน้ำเหล่านี้ทั้งหมดนะครับ
ต้องรักษาคุณหมอเป็นหลักเลย อย่าหนีการรักษานะครับ
ต่อไปเป็นเรื่องราวที่น่ารู้เพิ่มครับ
มะเร็งแนะนำอาหารอย่างไร ?
ทางการแพทย์อาหารปกติที่คนทั่วไปทานได้ ผู้ป่วยมะเร็งก็ทานได้ ควรบำรุง ด้วยแป้งน้ำตาลน้ำหวาน เนื้อนมไข่ ให้เพียงพอ ได้เลย
ไม่มีงานวิจัย ว่าเมื่อเป็นมะเร็งไปแล้วการงดเนื้อสัตว์ มังสะวิรัตน์ หรืองดอาหารอะไร จะทำให้มะเร็งโตช้าลง อายุยาวขึ้น นั้น ไม่มีเลย
แต่ถ้าจะกินมังสะวิรัติ ด้วยใจที่มีเมตตาว่าเราจะทำบุญ สงสารไม่ทานเนื้อสัตว์ ย่อมทำได้และดี แต่ถ้าด้วยใจว่า เนื้อสัตว์จะไปส่งเสริมมะเร็งนั้นไม่จริง ไม่มีงานวิจัยเลย
พยายาม นำหนังสือคนเจ็บไข้ ผู้โชคดี ไปให้ผู้ป่วยอ่านให้ได้นะครับ ควรรู้ว่า สิ่งเหล่านี้ จะราบรื่น จะดีขึ้นได้ ต้องใช้บุญช่วยนะ พยายามให้ ผู้ป่วย ถือศีลห้า ให้ได้เดี๋ยวนี้เลย ถือเองได้ไม่ต้องไปวัดตั้งใจสมาทานก็มีศีลแล้ว ต้องมีศีลให้ได้เสมอก่อน จากนั้นให้หัดทำสมาธิ หัดเจริญปัญญา ว่าร่างกายไม่ใช่ของเราตัวเรา จิตใจก็ไม่ใช่ ย่อมเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา ให้ปล่อยวาง สิ่งเหล่านี้เป็นบุญใหญ่มากๆ ครับ เรียกว่า การเจริญ อนิจสัญญา บุญสูงกว่า ทาน ศีล และการเจริญเมตตา เอาบุญช่วย รายละเอียดยังมีใน หนังสือนี้อีก หนังสือจะบอกทุกอย่าง รวมทั้งให้กำลังใจ ในการทำดีอย่างยิ่งยวด เช่น การมีศีลห้าให้ได้ก่อนเลยเสมอ การทำบุญให้ได้มากที่สุด
สามารถดาวน์โหลดหนังสือในรูปแบบไฟล์ PDF ได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
https://www.dropbox.com/sh/71w5n91wf07cdr1/GX4tyZ-gJX
ขอบคุณคำตอบ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน
ตอบ : ห้ามทานทุกอย่าง
ตับอ่อน เป็นคนละอวัยวะกับ ตับ ที่จะป่วยเป็นมะเร็งตับ หรือไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี หรือตับแข็ง ตับทำหน้าที่ ทำลายพิษ และสร้างน้ำดี
ตับอ่อน เป็นอวัยวะอีกอย่าง ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย มาย่อยอาหาร และสร้างฮอร์โมน อินซูลิน กับกลูคากอน ถ้าขาดอินซูลิน จะเป็นเบาหวาน ชนิดต้องฉีดอินซูลิน
ตับอ่อนอักเสบ ห้ามอาหารเสริม และถ้าเป็นแบบฉับพลัน ต้องงดอาหารและน้ำ เพื่อให้ตับอ่อนได้พักผ่อน อาจจะต้องให้อาหารและน้ำทางน้ำเกลือแทน ดังนั้น ต้องรักษาทางการแพทย์เท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม ตามนี้เลยครับ
โรคที่เกิดกับตับอ่อนที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ โรคตับอ่อนอักเสบ เป็นภาวะที่น้ำย่อยในตับอ่อนไม่สามารถไหลผ่านท่อของตับอ่อนได้ ทำให้เกิดการย่อยเนื้อเยื่อของตัวตับอ่อนเอง ส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้น เมื่อมีการอักเสบหลายครั้งเข้าก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง และจะเริ่มมีหินปูนไปเกาะที่ตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนมีขนาดเล็กลง สมรรถภาพในการทำงานลดลง
“การอักเสบของตับอ่อนแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ การอักเสบแบบเฉียบพลัน และการอักเสบแบบเรื้อรัง โดยผู้ป่วยจะมีอาการอักเสบแบบเฉียบพลันก่อน หากโรคไม่หายขาดหรือกลับมาเป็นอีกเพราะสาเหตุยังคงอยู่ ก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง”
ในการอักเสบแบบเฉียบพลันนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องอย่างมากและปวดตลอดเวลา โดยจะปวดร้าวไปทางด้านหลังเหมือนโดนมีดแทงนอกจากนี้ยังอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย แต่ก็เป็นไปได้ที่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการปวดเลยแต่พบได้น้อยมาก ส่วนการอักเสบแบบเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจปวดท้องไม่มากแต่มักมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ เกิดโรคเบาหวาน ท้องเสียเรื้อรังเพราะไม่สามารถย่อยไขมันได้ ถ่ายอุจจาระมีไขมันลอยอยู่ น้ำหนักลด มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง เป็นต้น
ปัจจัยการเกิดโรค
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักและนิ่วในถุงน้ำดีเป็นสาเหตุหลักของโรคที่พบได้มากที่สุด ส่วนสาเหตุอื่นๆ ได้แก่ ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง ผลข้างเคียงของยาบางชนิด โรคภูมิต้านตนเอง มีพยาธิหรือไวรัสบางอย่าง “มีประมาณร้อยละ 5 – 10 ที่เราไม่พบสาเหตุของโรค ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงมีโอกาสกลับมาเป็นโรคได้อีก เพราะเราไม่รู้ว่าต้นเหตุคืออะไร”
การวินิจฉัยและรักษา
ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบที่มีอาการไม่รุนแรงมักมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งการตรวจเลือดเพื่อดูเอนไซม์ของตับอ่อนที่ขึ้นสูง
ร่วมกับการทำอัลตราซาวนด์และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ว่ามีอาการตับอ่อนอักเสบหรือไม่
เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการตับอ่อนอักเสบ แพทย์จะทำการรักษาโดยให้ งดน้ำ งดอาหาร เพื่อหยุดการทำงานของตับอ่อน ร่วมกับการให้ยาลดอาการปวด และให้น้ำ 24 - 48 ชั่วโมงเพราะผู้ป่วยจะมีอาการของภาวะขาดน้ำ ในกรณีที่มีการอักเสบมากจนเกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อตับอ่อน จะมีโอกาสติดเชื้อสูง แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะและอาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเปิดเข้าไปล้างทำความสะอาด
“โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าตรวจพบสาเหตุของโรค เช่น พบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีเราก็ผ่าตัดออกไป ดังนั้นถ้าตรวจพบเร็วและไม่มีโรคแทรกซ้อน โรคนี้ถือเป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ส่วนโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังที่ยังหาสาเหตุไม่ได้นั้น ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่โรคอาจพัฒนาไปเป็นโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน หรือมะเร็งในตับอ่อนได้”
ขอบคุณคำตอบปัญหาสุขภาพ : จากกลุ่มไลน์ หมอตั้มตอบปัญหา โดย คุณหมอตั้ม กิฟฟารีน